Home Isolation ระบบรักษา โควิด-19 ที่บ้าน

Home Isolation

Home Isolation รักษา โควิด-19 ที่บ้าน

ปัจจุบันสถานการณ์การระบาดของโรค โควิด-19 ยังไม่สามารถที่จะควบคุมการระบาดได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และมีแนวโน้มว่า เราจะต้องใช้ชีวิตอยู่กับเจ้าโรคนี้ต่อไป และต้องดำเนินชีวิตต่อไปให้ได้ แม้ว่าโควิด-19 ได้กลายพันธุ์ไปแล้วหลายครั้งตั้งแค่ สายพันธุ์ อัลฟ่า จนมาถึง สายพันธ์โอมิครอน ปัจจุบันที่กำลังแพร่ระบาดได้อย่างด้วยเร็ว ประชาชนสามารถติดเชื้อโอมิครอนได้ง่าย ทำให้แต่ละวันประเทศไทยมีผู้ป่วยติดเชื้อนับหมื่นคนต่อวัน (ข้อมูลเดือน มีนาคม 2565)

จากสถานะการดังการทำให้ สถานพยาบาลต่างๆ ทั้งของภาครัฐและเอกชน มีอัตราการใช้บริการเต็มอัตาแทบจะทุกพื้นที่ หรือพูดง่ายๆว่า โรงพยาบาลเตียงเต็มทุกโรงพยาบาล การเข้ารับการรักษาไม่เพียงพอที่จะรองรับจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดได้ จึงเกิดระบบแนวคิดการแบ่งกลุ่มผู้ติดเชื้อตามอาการ เป็นกลุ่มต่างๆ โดยแบ่งออกเป็นสีตามอาการดังนี้

การจำแนก 3 อาการผู้ป่วยโควิด-19

  1. กลุ่มอาการสีเขียว คือ ไม่มีอาการ หรือ มีอาการเล็กน้อย  สามารถรักษาตัวที่บ้านได้
  2. กลุ่มอาการสีเหลือง คือ มีอาการป่วย +มีภาวะปัจจัยเสี่ยง แนะนำรักษาศูนย์แยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation)
  3. กลุ่มอาการสีแดง คือ กลุ่มที่มีอาการ เหนื่อยง่ายหายใจไม่สะดวก ปอดอักเสบ แนะนำให้รักษาตัวในโรงพยาบาล

โดยท่านสามารถโทรสอบถาม เพื่อคัดกรอง แยกอาการป่วยกับกรมอนามัย ที่สายด่วนกรมอนามัย 02 590 4111 เพื่อปรึกษาว่าเหมาะสมกับการเข้ารักษาในระบบ Home Isolation (HI) หรือไม่

ทั้งนี้แนวคิดเรื่องการรักษาตัวเองที่บ้าน หรือ โฮม ไอโซเลชั่น นี้ ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตั้งเป้าหมายเพื่อ ลดความแออัด ของจำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้ารักษาในสถานพยาบาล เพื่อให้มีจำนวนบุคลากร และจำนวนเตียงที่จะรองรับผู้ป่วยรายที่มีอาการหนัก หรือมีภาวะเสี่ยงสูง ให้สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ทันท่วงที

โฮม ไอโซเลชั่น คืออะไร

ระบบ โฮม ไอโซเลชั่น Home Isolation (HI) คือระบบการดูแลรักษาโรคโควิด 19 ในผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว ที่ไม่แสดงอาการ หรือมีอาการน้อย ให้สามารถดูแลรักษาโควิดที่บ้านของผู้ป่วยได้

โดยมีหน่วยบริการทางการแพทย์ ที่ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ HI กับทาง สปสช. หรือ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เข้ามาดูแลดำเนินการรักษา โดยการส่งยา ร่วมถึงอาหาร (ถ้ามี) ในระหว่างที่ผู้ได้รับเชื้อโควิด-19 ทำการกักตัว รักษาอาการอยู่ที่บ้าน

*ในกรณีที่หน่วยบริการไม่มีการส่งอาหาร ทางหน่วยบริการนั้นๆจะแจ้งให้ ผู้ป่าวยทราบก่อน เข้าสู่การรักษาระบบ HI

เข้าระบบรักษา โควิด-19 แบบ HI

หลังจากที่ท่านได้ตรวจพบแล้วว่า ท่านได้รับเชื้อโควิด-19 และสังเกตุอาการแล้วว่าท่านเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว คือไม่มีอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย สามารถดูแลรักษา อยู่ที่บ้านได้ ท่านต้องทำการลงทะเบียน เพื่อขอเข้าสู่ระบบการรักษาโควิด-19 ที่บ้าน (HI) โดยขั้นตอนการลงทพเบียนสามารถลงทะเบียนได้หลายวิธีดังนี้

วิธีการลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ โฮม ไอโซเลชั่น รักษาโควิด-19 ที่บ้าน

  1. โทรสายด่วน สปสช. 1330 กด 14 ติดต่อได้ตลอด 24 ชม.
  2. กรอกข้อมูลลงทะเบียนด้วยตนเองที่เว็บไซท์ สปสช >>ลงทะเบียน HI ด้วยตนเอง
  3. แอด Line OA ของ สปสช โดยเพิ่มเพื่อน @nhso

เข้าสู่ระบบโฮม ไอโซเลชั่น

หลังจากที่ท่านได้ลงทะเบียน เพื่อยืนยันการเข้ารักษษตัวเองที่บ้าน ในระบบ HI แล้ว ข้อมูลการลงทะเบียนของท่านจะถูกจับคู่กับ หน่วยบริการ(สถานพยาบาลทั้งภสครัฐ และเอกชน) ที่ขึ้นะเบียนเข้าร่วมโครงการ HI กับ สปสช เพื่อที่หน่วยบริการนั้นจะเข้าไปดูแลรักษาอาการของท่านต่อไปโดย

สรุปขั้นตอน โฮม ไอโซเลชั่น

  • ตรวจพบเชื้อ
  • ประเมินอาการ อยู่ในกลุ่มสีเขียว
  • ลงทะเบียนเข้าระบบการรักษษที่บ้าน
  • รอการจับคู่หน่วยบริการด้านการแพทย์ ติดต่อกลับ (1-6 ชม)
  • รับการรักษาตามโปรแกรมจนหายเป็นปกติ

กรณีเกิดความล่าช้าในระหว่างการเข้าระบบ HI

  • หากท่านลงทะเบียนในระบบ Hi แล้วไม่ได้รับการจับคู่กับสถานพยาบาล (หน่วยบริการ) ภายใน 6 ชม สามารถโทรไปที่เบอรื 1330 อีกครั้งเพื่อติดตามเรื่อง
  • ท่านสามารถ ไปรพ ตามสิทธิที่ท่านมี หรือ รพ.รัฐ ใกลล้บ้าน เพื่อรับการรักษาตาม นโยบาย เจอ แจก จบ (แนะนำให้โทรนัดหมายก่อน) เพื่อลดความแอดอัด ในสถานพยาบาล

ผู้ป่วย กลุ่มสีเหลือง

สำหรับ ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง สีเหลือง ควรติดต่อช่องทางใด ช่องทางหนึ่ง ดังนี้

  • กทม สายด่วยของแต่ละเขต หรือเพิ่มไลน์ @BKKCOVID19CONNECT
  • ต่างจังหวัด สายด่วนเกี่ยวกับโควิด-19 ประจำอำเภอ หรือ จังหวัด (ดูรายละเอียดได้ที่ เฟสบุ๊ก หรือเว็บไซท์ของสำนักงานสาธารณะสุขแต่ละจังหวัด)
  • ทั้ง กทม และ ต่างจังหวัด สายด่วน สปสช 1330 กด 14

กลุ่มเสี่ยง 608 หมายถึงใครบ้าง (เข้าข่ายเพียงข้อใดข้อหนึ่ง)

  1. อายุ 60 ปีขึ้นไป
  2. โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง
  3. โรคหัวใจและหลอดเลือด
  4. โรคไตวายเรื้อรัง
  5. โรคหลอดเลือดสมอง
  6. โรคอ้วน นน.90 โลขึ้นไป
  7. โรคมะเร็ง
  8. โรคเบาหวาน
  9. หญิงตั้งครรภ์
  10. เด็กอายุ 0-5 ปี
  11. (รวมถึงคนไข้ติดเตียง)

ผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการรักษา ทั้งการรักษาแบบผู้ป่วยนอก เจอ แจก จบ, รักษาที่บ้าน-ศูนย์พักคอย-รพ.สนาม, ฮอสพิเทล หรือ โรงพยบาลแบบผู้ป่วยใน โดยแต่ละกองทุนสุขภาพจะตามจ่ายให้กับผู้ป่วยตามสิทธิการรักษาที่ท่านมี

*ข้อมู จาก สปสช วันที่ 7 มีนาคม 2565

8 มีนาคม 2565 นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)ได้ชี้แจงถึงสถานการณ์ของสายด่วน สปสช. 1330 ซึ่งขณะนี้มีปัญหาเรื่องการโทรไม่ติด เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 และประชาชนจำนวนมากโทรเข้ามากว่า 40,000-70,000 สาย/วัน จนเกินศักยภาพของระบบที่จะรองรับได้ทัน อีกทั้งมีผู้ติดเชื้อหลายรายที่ลงทะเบียนเข้าระบบการดูแลแบบ Home Isolation แต่ยังรอการตอบรับจากหน่วยบริการนาน

8 มีนาคม 2565 นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)ได้ชี้แจงถึงสถานการณ์ของสายด่วน สปสช. 1330 ซึ่งขณะนี้มีปัญหาเรื่องการโทรไม่ติด เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 และประชาชนจำนวนมากโทรเข้ามากว่า 40,000-70,000 สาย/วัน จนเกินศักยภาพของระบบที่จะรองรับได้ทัน อีกทั้งมีผู้ติดเชื้อหลายรายที่ลงทะเบียนเข้าระบบการดูแลแบบ Home Isolation แต่ยังรอการตอบรับจากหน่วยบริการนาน

โดยระบุว่าก่อนอื่นต้องขออภัยประชาชนที่ไม่ได้รับความสะดวก ที่ผ่านมา สปสช.ได้ขยายศักยภาพของสายด่วน 1330 ให้รองรับการโทรของประชาชน ขณะที่เจ้าหน้าที่สายด่วนและจิตอาสาจากภาคส่วนต่างๆที่เข้ามาช่วยรับสายก็ทำงานอย่างหนัก แต่ก็ยังไม่ทันกับปริมาณสายโทรเข้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก จึงต้องขออภัยมา ณ ที่นี้อีกครั้ง

ทั้งนี้ ขณะนี้สายที่ติดต่อไม่ได้หรือสายหลุด (abandon) เริ่มลดลง จากร้อยละ 60 เหลือประมาณร้อยละ 20 แต่ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ สปสช.ต้องการให้สายที่หลุดลดลงน้อยกว่าร้อยละ 5 ระหว่างนี้ ขอความร่วมมือผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มเพื่อนกับไลน์ สปสช. @nhso และระหว่างที่หน่วยบริการติดต่อมา ท่านที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อยสามารถขอรับการรักษาแบบผู้ป่วยนอกและแยกกักตัวที่บ้านที่สถานพยาบาลตามสิทธิหรือสถานพยาบาลภาครัฐใกล้บ้านก่อนได้
นพ.จเด็จ กล่าวต่อว่า ตามแนวทางใหม่ของกระทรวงสาธารณสุข หากตรวจ ATK แล้วขึ้น 2 ขีด ติดเชื้อโควิด-19 หากเป็นกลุ่มไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย สามารถรักษาแบบผู้ป่วยนอกและแยกกักตัวเองที่บ้านหรือนโยบาย เจอ แจก จบ ของกระทรวงสาธารณสุขได้เลย โดยไปโรงพยาบาลตามสิทธิรักษาหรือสถานพยาบาลภาครัฐใกล้บ้านได้ แต่แนะนำให้โทร.นัดหมายก่อน อย่างไรก็ตาม กรณียืนยันต้องการลงทะเบียนรักษาที่บ้าน (Home Isolation) ลงทะเบียนได้ตามระบบที่มีของแต่ละจังหวัด หรือกรณีไม่ทราบว่าแต่ละจังหวัดมีช่องทางการลงทะเบียนรักษาที่บ้านอย่างไร ก็ลงทะเบียนผ่านระบบของ สปสช. ทางสายด่วน 1330 กด 14 หรือที่เว็บไซต์ https://crmsup.nhso.go.th/#TicketHI หรือ ไลน์ สปสช. โดยเพิ่มเพื่อน พิมพ์ @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 ได้เช่นกัน
ทั้งนี้ระหว่างรอการรักษา ไม่ว่าจะเป็นลงทะเบียนแล้วแต่สถานพยาบาลยังไม่ติดต่อกลับ ท่านสามารถรักษาตัวเองตามอาการได้ เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ไอ แก้เจ็บคอ ลดน้ำมูก ดื่มน้ำมากๆ เป็นต้น
นพ.จเด็จ ยังกล่าวต่อไปว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลสายที่โทรเข้า พบว่ากว่า 50% เป็นสายจากผู้ติดเชื้อที่ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ Home Isolation แล้ว โทรเข้ามาติดตามสอบถามความคืบหน้าเนื่องจากยังไม่ได้รับการตอบรับจากหน่วยบริการหรือรอการตอบรับนานหลายวัน ทำให้คนไข้รายใหม่โทรไม่ติดหรือเข้าสู่การลงทะเบียนได้ช้า ทั้งนี้ในกรณีติดตามยังไม่ได้รับบริการจากหน่วยบริการนั้น สปสช.ได้รับเรื่องและส่งให้แต่ละหน่วยบริการทราบ ด้วยเหตุนี้จึงต้องขอความร่วมมือจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ลงทะเบียนแล้ว ลดความถี่หรืองดเว้นการโทรติดตามความคืบหน้า จะช่วยลดจำนวนสายโทรเข้า 1330 ลงได้อย่างมาก และช่วยให้ผู้ติดเชื้อรายใหม่สามารถโทรติดหรือลงทะเบียนเข้าระบบ Home Isolation ได้เร็วมากขึ้น
นพ.จเด็จ ย้ำว่า ผู้ติดเชื้อที่ลงทะเบียนแล้ว ไม่ว่าจะผ่านช่องทางสายด่วน ไลน์ เฟสบุ๊ก หรือการลงทะเบียนด้วยตัวเองผ่าน QR code ก็ตาม ข้อมูลจะถูกเก็บอยู่ในฐานข้อมูลและไม่ต้องกังวลว่าจะตกหล่นสูญหาย เพียงแต่ปัญหาการรอนานหรือไม่มีหน่วยบริการตอบกลับ อาจเกิดจากขณะนั้นจำนวนผู้ติดเชื้อในพื้นที่มีมากจนเกินศักยภาพของหน่วยบริการที่จะรองรับได้หมดและต้องรอ discharge ผู้ป่วยเดิมในระบบออกไปก่อนจึงจะสามารถรับผู้ป่วยรายใหม่เข้ามาดูแลได้ ทำให้มีผู้ติดเชื้อหลายรายที่ต้องรอนาน ซึ่งในประเด็นนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ขยายศักยภาพหน่วยบริการรวมทั้งจัดระบบบริการอื่นๆ เป็นทางเลือกในการรองรับผู้ป่วย เช่น การจัดระบบ “เจอ แจก จบ” ให้ผู้ป่วยไปรับบริการแบบผู้ป่วยนอกใน 14 จังหวัดใกล้เคียง กทม. เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับการตอบรับเข้าสู่การดูแลแบบ Home Isolation จากหน่วยบริการในพื้นที่ โดยสามารถไปใช้บริการได้ทุกสิทธิ และไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนหน่วยบริการประจำกับโรงพยาบาลนั้นๆ
นอกจากนี้แล้ว ในวันที่ 8 มี.ค. 2565 นี้ ทีมงานและจิตอาสาของ สปสช. ยังจะลงพื้นที่จะนำยาฟ้าทะลายโจรไปกระจายให้แก่ชุมชนต่างๆใน กทม.กว่า 900 ชุมชน เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ป่วยโควิดที่มีอาการไม่มาก เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนไข้ที่ลงทะเบียนแล้วหน่วยบริการไม่ติดต่อกลับไปเกิน 5 วัน หากมีอาการเล็กน้อยก็สามารถประสานกับผู้นำชุมชนเพื่อรับยาฟ้าทะลายโจรได้ทันที
“เราเข้าใจดีว่าเมื่อลงทะเบียนไปแล้วไม่ได้รับการตอบรับจากหน่วยบริการ ทำให้ประชาชนมีความกังวลใจและพยายามติดต่อสอบถามความคืบหน้าอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งต้องขออภัยที่ท่านไม่ได้รับความสะดวก อย่างไรก็ดี สถานการณ์ในขณะนี้อยู่ในภาวะไม่ปกติและเกินศักยภาพที่ระบบสายด่วน 1330 จะรองรับการโทรได้หมด ดังนั้น สปสช. เราต้องวอนขอความร่วมมือจากท่านจริงๆ ในการลดความถี่หรืองดเว้นการโทรติดตามความคืบหน้าหากยังไม่มีหน่วยบริการตอบรับดูแลท่านเข้าสู่ระบบ Home Isolation การลดความถี่หรืองดเว้นการโทรเข้ามาเพื่อสอบถามความคืบหน้า จะช่วยลดปริมาณสายเข้าในระบบและทำให้โทรติดได้ง่ายขึ้น ทำให้ผู้ป่วยรายใหม่เข้ามาลงทะเบียนได้เร็วขึ้น ภาระงานของเจ้าหน้าที่ที่สายด่วนที่ต้องตอบคำถามเหล่านี้ก็จะสามารถนำเวลาไปใช้ในการประสานหาหน่วยบริการให้แก่ท่านได้มากขึ้นครับ” นพ.จเด็จ กล่าว