เบลเยี่ยม 3-0 รัสเซีย ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรอบแบ่งกลุ่ม ยูโร 2020
“ปิศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม เบอร์ 1 โลก ฟีฟ่าแรงกิ้ง เหนือกว่าทุกด้าน ทั้งขุมพลัง พลักงาน ความสามารถผู้เล่น เอาชนะ ทีมชาติรัสเซียไปขาดรอย แบบสบายๆ 3-0 ประเดิม 3 แต้ม นำจ่าฝูงกลุ่มบี
“ในเกมครั่งแรกเราทำผลงานได้ดี ดีมากๆ เราสร้างสรรโอกาสได้หลายครั้ง แต่ในครึ่งหลังเรากลับทำไม่ได้อย่างที่ตั้งใจ มีความผิดพลาดในหลายๆจังหวะ เราต้องทำงานเพิ่มขึ้นเพื่อแก้ไขจุดนั้น ถ้าเราต้องการไปให้ไกลที่สุดในทัวนาเมนท์นี้ ” โรเมโล ลูกากู กล่าวหลังจบเกม
เกมนี้ โรเบร์โต มาร์ติเนซ กุนซือเบลเยียม ส่ง ยูริ ติเลอมองส์ กองกลางจากเลสเตอร์ ซิตี้ นำทัพแดนกลาง โดยมี ยานนิค คาร์ราสโก, ดรีส์ เมอร์เทนส์ และ ธอร์กาน อาซาร์ด ทำเกมรุกสนับสนุน โรเมลู ลูกากู กองหน้าตัวเป้า ขณะที่ สตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ กุนซือรัสเซีย ใช้ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน ปั้นเกมรุก โดยมี อาร์เตม ซูบา กองหน้ากัปตันทีมลงล่าตาข่าย
เปิดฉากครึ่งแรกมาแค่ 10 นาที เบลเยียม ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ดรีส์ เมอร์เทนสื เปิดบอลเข้ากรอบเขตโทษ อันเดรย์ เซเมนอฟ ผู้เล่นรัสเซีย สกัดบอลไม่ดีมาเข้าทาง โรเมลู ลุกากู ยิงด้วยซ้ายเข้าไปตุงตาข่าย
จากนั้นนาทีที่ 14 โอกาสของรัสเซีย เมื่อ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน เปิดลูกเตะมุมจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ มาริโอ เฟอร์นันเดส ได้โขกเน้นๆ แต่บอลตรงตัว ติโบต์ กูร์กตัวส์
ถัดมา 5 นาที เบลเยียม บุกมาอีกแล้ว โรเมลู ลูกากู หลุดมาในเขตโทษฝั่งขวาก่อนจ่ายย้อนมาให้ เลอันเดอร์ เดนดองค์เกอร์ ซัดข้ามคานออกไป
นาทีที่ 23 เบลเยียม ได้ลุ้นต่อเนื่อง ธอร์กาน อาซาร์ก ได้ซัดในเขตโทษ แต่ถูกอันทอน ชูนิน โกลของรัสเซีย เซฟเอาไว้ได้
ถึงนาทีที่ 34 เบลเยียม หนีเป็น 2-0 จากจังหวะที่ ธอร์กาน อาซาร์ด เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ อันทอน ชูนิน ปัดมาเข้าทาง โธมัส มูนิเยร์ ซ้ำเข้าไปไม่เหลือซาก
เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 45+3 เบลเยียม เกือบได้เม็ดสาม เมื่อ ยานนิค คาร์ราสโก พลิ้วเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนซัดด้วยขวา บอลพุ่งข้ามคาน
จบครึ่งแรก เบลเยียม นำ รัสเซีย อยู่ 2-0
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง รัสเซียพยายามจะหาทางเข้าไปทำประตู
นาทีที่ 88 กลายเป็นเบลเยียม ที่มาได้ประตูนำห่าง 3-0 จากจังหวะที่ โธมัส มูนิเยร์ จ่ายบอลทะลุเข้าเขตโทษให้ โรเมลู ลูกากู กดด้วยขวาเข้าไปไม่พลาด
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม เบลเยียม ชนะ รัสเซีย 3-0 เก็บ 3 คะแนน
เปรียบเทียบสถิติในเกมระหว่างทั้ง 2 ทีม
เบลเยี่ยม | สถิติ | รัสเซีย |
---|---|---|
9 | ลูกยิง | 5 |
4 | ยิงเข้ากรอบ | 1 |
67% | ครองบอล | 33% |
722 | ผ่านบอล | 354 |
89% | ผ่านบอลสำเร็จ | 74% |
9 | ฟาส์ว | 11 |
0 | ใบเหลือง | 0 |
0 | ใบแดง | 0 |
0 | ล้ำหน้า | 4 |
2 | เตะมุม | 4 |
รายชื่อผู้เล่น ทั้ง 2 ทีม
เบลเยี่ยม
ธิโบต์ กูร์ตัวส์ – โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, แยน แฟร์ตองเก้น, เดดรีค โบยาต้า – ทิโมธี คาสตาญ, ยูริ ตีเลอม็องส์, เลอันเดอร์ เดนด็องเกอร์, ธอร์แกน อาซาร์ – ยานนิค คาร์ราสโก้, ดรีส์ เมอร์เท่นส์, โรเมลู ลูกากู
รัสเซีย
อันทอน ชูนิน – มาริโอ เฟอร์นานเดส, อันเดรย์ เซมิโอนอฟ, จอร์จี ชิคิยา, ยูริ ซีร์คอฟ – ดมิทรี บารินอฟ, มาโกเม็ด ออซโดเยฟ – โรมัน ซ็อบนิน, ดาเลียร์ คุซยาเอฟ, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน – อาร์เต็ม ซูบ้า
สถิติหลังเกม
- โธมัส มูนิเยร์ เป็นผู้เล่นสำรองคนแรกที่ทำประตูได้ในเกม ยูโร
- ลูกากู ทำประตูในเกมทีมชาติ 62 ประตู จากการติดทีมชาติ 64 นัด และ 20ประตูเกิดขึ้นใน 15 เกมหลังสุด
- ลูกากู นำเป็นดาวซัลโวในเกม ยูโร ที่ 4 ประตูเหนือ แยน เกอเลอมันส์ และ รัดยา นาอิงโกลัน 2 รุ่นพี่ทีมชาติที่ทำคนละ 2 ประตู
- เบลเยี่ยม ชนะ 3-0 ครั้งสุดท้าย ปี 2016
- เบลเยี่ยม ทำประตูแบบโอเพนเพล ได้ทุกนัด 5 นัดหลังสุดในเกมยูโร
- เบลเยี่ยม ชนะ 6 เกมจาก 7 นัดที่เจอกับรัสเซีย ล่าสุด
- รัสเซียไม่ชนะติดต่อกัน 6 เกมล่าสุดใน เกมยูโร