ท่าน้ำนนท์
ท่าน้ำนนท์ หรือท่าพิบูลสงคราม 3 อยู่หน้าศาลากลางหลังเก่าของจังหวัดนนทบุรี ด้านหน้ามีหอนาฬิกาสร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2500 โดยกระทรวงมหาดไทย เพื่อประโยชน์ให้ประชาชนใช้ดูเวลา และตระหนักถึงวัฒนธรรมการตรงต่อเวลา
ปัจจุบัน ท่าน้ำนนท์ หรือ ท่าเรือ N30 ยังคงความสำคัญในการเดินทางของ คนใน จ.นนทบุรี แม้ศูนย์ราชการ จ.นนทบรีจะย้ายจากที่นี่ไปตั้งบน ถ.รัฒนาธิเบศแล้วก็ตาม การสัญจรทางน้ำ ยังคงมีความสำคัญสำหรับวิถีชีวิตของผู้คน นั่งรถต่อเรือ นั่งเรือมาต่อรถ มีผู้คนสัญจรผ่านไปมาจำนวนมากในแต่ละวัน เป็นจุดต้นสาย ของเรือโดยสารและรถประจำทางหลายเส้นทาง เรียกว่าเป็นชุมทางการสัญจรเลยที่เดียว เมื่อมีคนผ่านไปมามากก็ย่อมีการค้าขาย เกิดเป็นตลาดท่าน้ำนนท์
เที่ยวท่าน้ำนนท์
วันนี้ gettythailand ขอพาเพื่อนๆมาเที่ยว ท่าน้ำนนท์ อดีตศูนย์ราชการเมืองนนท์ ปัจจุบันเป็นศูนรวมการเดินทาง ท่ารถ ท่าเรือ สำคัญของเมืองนนทบุรี
หอนาฬิกา ถือเป็นอีกสัญลักษณ์ของท่าน้ำนนท์ก็ว่าได้ หอนาฬิหาหลังนี้สร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. 2500 โดยกระทรวงมหาดไทย สมัยนั้นนาฬิกาข้อมือน่าจะหายากและมีราคาแพง กระทรวงมหาดไทยจึงให้สร้างหอนาฬิกาบอกเวลาและเพื่อสร้างวัฒนธรรม ความตรงต่อเวลาแก่ประชาชน
บริเวณหอนาฬิกา มีผู้คนสัญจรไปมาพลุกพล่านตลอดทั้งวัน เพราะเป็นจุดเริ่มตัน ของเรือด่วนเจ้าพระยา และ รถเมล์หลายๆเส้นทาง มีแม่ค้าแม่ขายมาตั้งร้านรายรอบหอนาฬิกาแห่งนี้ ทั้งขนม ผลไม้ กินเล่นๆ แม้แต่กับข้าวกับปลา ให้เลือกหาซื้อกลับไปกินที่บ้าน ซึ่งแต่ละร้านก็ดูน่ากินมากทีเดียว
บรรยากาสร้านค้า บริเวณหอนาฬิกา และผู้คนที่เลือกซื้อหากับขาวกับปลากับไปทานที่บ้าน มีให้เลือกทั้งอาหารคาว หวาน ทานจริงจัง ทานเล่นๆกันเลยทีเดียว
ก่อนจะเดินเลยไปถึงตัว ศาลาท่าน้ำนนท์ เราก็มาสะดุดตากับ ร้านกุ้ยช่าย 7 สี บอกเลยว่า หากใครที่เพิ่งเคยผ่านมาอย่าง admin ต้องหยุดสังเกตุการณ์ที่ร้านนี้แน่นอน เพราะขนมที่วางจำหน่ายบนเคาร์เตอร์ช่างดูน่าซื้อ น่ารับประทานเสียจริงๆ
แค่เห็นก่อนจะเดินถึงร้าน ก็รู้สึกได้เลยว่า ต้องน่ากินแน่นอนผู้คนถึงอออยู่หน้าร้านหลานรายเลยที่เดียว ปั้นกันสดๆให้เห็นจะๆ เอาไปนึงกันสดๆแบบ การันตีความสดใหม่ ร้อนๆออกจากหม้อนึ่งกันเลย เอาละ admin คิดไว้ในหัวแล้วว่าขากลับจะต้องมาสอยกลับไปรับประทานสักกล่อง
แล้วก็ตัดสินในเดินเลยผ่านไปก่อน เพราะเวลาค่อนข้างจะจำกัดในการถ่ายภาพ และไม่อยากถือถุงขนมพะรุงพะรัง ระหว่างที่เดินผ่านไปมีแม่ค้าออกคนจากร้านกุ้ยช่ายเดินยกถาดขนมที่เพิ่งนึ่งเสร็จออกมา สีสด ควันอุ่นๆลอยฟุ้ง แบบนี้กล่องเดียงคงไม่พอ ต้อง 2 กล่องแล้ว
แล้วเราก็เดินเข้ามายังท่าเรือ ในตัวอาคารท่าน้ำนนท์ เดินเข้ามาในท่ารเือ มีผู้คนกำลังใช้บริการเรือข้ามฝาก และบางส่วนก็นั่งรอเรือโดยสาร เรือด่วนเจ้าพระยา กันอยู่มาก
เรือด่วนเจ้าพระยา ถ้าเป็นแม่น้ำเป็นถนน เรือด่วนเจ้าพระยาก็คือรถเมล์นั้นเอง เรือด่วนเจ้าพระยาถือเป็นการเดินทางที่สะดวกและรวดเร็ว และจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเมืองที่มีรถมากกว่าถนนเช่น กรุงเทพ ของเรา ฮาฮาฮา ท่าน้ำนนท์เป็นท่าเรือหมายเลข 30 ของกรมเจ้าท่า โดยเรือด่วนเจ้าพระวิ่งให้บริการ จากท่าเรือสาธร (สะพานสาธร) มาที่ ท่าน้ำนนท์เป็นท่าสุดท้าย (เฉพาะเรือประจำทาง ไม่มีธงสีหน้าเรือ)
เมื่อเดินออกจากท่าเรือ ก็พบลานกว้างเป็น พื้นที่สาธารณะให้ประชาชนทั่วไปได้มานั่งเล่นพักผ่อนออกกำลังกายกัน และยังมีท่าเรือเล็กอื่นๆในบริเวณนี้ ที่สามารถลงไปนั่งชมวิวพักผ่อนกันได้ด้วย
นอกจากนั่งพักผ่อน ชมวินแม่น้ำให้ใจเย็นกันแล้ว ในบริเวณนี้ก็มีร้านขายอาหารปลา อาหารนกให้ได้ชิวกันไปอีก มีให้เลือกหลายประเภท ทั้งขนมปังแผ่น ขนมปังก้อน ขนมหลากสี หัวอาหาร ราคาก็ไม่แพงขึ้นอยู่กับปริมาณ ขนาดของห่อ อันนี้ใครชอบเลี้ยงนก เลี้ยงปลาก็ไม่น่าพลาด
ร้านของกิน @ท่าน้ำนนท์
หลังจากเดินเล่นอยู่ราวเกือบ 40 นาที ก็มาถึงเป้าหมายของทริปนี้ “กิน”ครับ ร้านของกินที่ท่าน้ำนนท์ตรงนี้จะเป็นลักษณะแบบริมทาง ร้านตั้งบนพื้นถนน ส่วนโต๊ะนั่งอยู่บนฟุตบาทติดรั้ว ศาลากลางหลังเก่าเมืองนนท์ ซึ้งเรียงรายไปตลอดแนวกำแพงประมาณ 10 กว่าร้าน สังเกตุว่าทุกร้านมีลูกค้านั่งทาน เข้า-ออกร้าน ตลอดเวลา เรื่องความอร่อยคงไม่ต้องบอกกัน
หลังจากไปเดินวนอยู่ 2 รอบทั้งถ่ายรูปและเลือกร้านที่จะนั่งทานก็ได้มา 2 ร้านคือร้าน ราดหน้าท่าน้ำนนท์ ที่ได้ยินมาว่ารสเลิศในย่านนี้ แต่แอดมินวันนี้ไม่ได้อยากกินราดหน้า เลยสั่งผัดซีอิ้วมากินแทน (สะงั้น) ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงเหนอะ อิอิ
ซึ่งเมื่อสั่งมาแล้วก็ไม่ผิดหวังใน หน้าตาก็น่าทานประมาณนี้ รสชาติก็ดี ชวนให้คิดว่าถ้าเป็นราดหน้าจะมีมิติอร่อยเพิ่งขึ้นได้อีกยังไง ไว้คราวหน้าค่อยมาลองทานใหม่ วันนี้เล็งไว้ 2 ร้านแล้ว 2 เมนูแล้ว แถมเล็งกุ้ยช๋ายไว้อีก 2 กล่องกลับบ้านด้วย
อีกร้านที่เล็งไว้ จริงๆแล้วคือเป้าหมายของวันนี้เลย ก่อนมาท่าน้ำนนท์วันนี้ได้หาข้อมูลมาพอสมควร และ หมูสะเต๊ะ เจ้ภา อันลือชื่อทำให้ แอดมินอยากลองลองลิ้มชิมรสอย่างมาก เพียงยืนดู ถ่ายรูปอยู่ฝั่งตรงข้ามยังรู้สึกได้ว่าอร่อย แค่เห็นวิธีการปิ้งย่าง พลิกกลับหมูที่อยู่บนเตาอย่างชำนาญ แค่นี้ก็น้ำลายหกแถมลูกค้ารอซื้อต่อคิวไม่ขาดระยะเลย
จริงๆแล้วร้านอาหารริมทางท่าน้ำนนท์ที่นี่ เมื่อนั่งโต๊ะแล้วสามารถสั่งอาหารจากร้านไหนก็ได้ จะสั่งหมูสะเต๊ะไปกินที่ร้านราดหน้าก็ได้ แม่ค้าจะตะโกนสั่งอาหารของร้านเพื่อนข้างๆให้กัน แบบช่วยกันทำมาหากิน พึงพากันและกัน แต่ที่ต้องย้ายมานั่งให้ตรงร้านหมูสะเต๊ะ ก็เพราะอยากจะได้ภาพตอนแม่ค้ากำลังย่างหมูบนเต่านี้แหรละครับ มันชวนน้ำลายสอจริงๆ
นั่งโต๊ะแล้ว สั่งชุดนั่งทานที่ร้านชุดเล็ก 10 ไม้ 50 บาท แล้วรอไม่นาน หมูสะเต๊ะก็ถูกนำมาว่างบนโต๊ะ มันหอมมาก กลิ่นหมูหอมมาก หน้าตาก็น่ากินครับ รีบถ่ายรูป แชะ แชะ แล้วก็ทานทันทีครับ อร่อยสมคำล่ำลือ ไม่ผิดหวังเลยครับ ถ้าจะสั่งกลับบ้าน มีชุดเล็ก 80 บาท ชุดใหญ่ 120 บาท
ทริปเที่ยวท่าน้ำนนท์
เปิดเวลา 06.00 น. – 24.00 น.
ค่าใช้จ่ายประมาณ 40-200 บาท
เวลาที่แนะนำ 16.00 น. – 21.00 น.
เหมาะกับ : มานั่งเล่น พักผ่อน ทานอหารค่ำ กับเพื่อน กับครอบครัว
แผนที่การเดินทางมาท่าน้ำนนท์
ถ้าเพื่อนๆจะเดินทางมาท่าน้ำนนท์ สามารถมาได้หลายทางทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถเมล์ และทางเรือด่วนเจ้าพระยา ถ้าเพื่อนจะนั่งรถะเมล์มา มีรถเมล์ 14 สายที่ผ่านท่าน้ำนนท์ให้เพื่อนๆได้เลือกเดินทางกัน ดังนี้
- 114 ท่าน้ำนนท์-ลำลูกกา
- 117 ท่าน้ำนนท์-ห้วยขวาง
- 175 ท่าน้ำนนท์-ท่าน้ำภาษีเจริญ
- 63 ท่าน้ำนนท์-อนุสาวรีย์ชัย
- 64 นนทบุรี-สนามหลวง
- 65 วัดปากน้ำนนท์-สนามหลวง
- 203 สนามหลวง-ท่าอิฐ
- 30 นนทบุรี-สายใต้
- 32 ปากเกร็ด-วัดโพธิ์(ท่าเตียน)
- 367 นนทบุรี-รังสิต
- 506 ปากเกร็ด-พระประแดง
- 545 นนทบุรี-สำโรง
- 6028 ราชพฤกษ์-ติวานนท์
- 97 กระทรวงสาธารณสุข-โรงพยาบาลสงฆ์
เพื่อนค้นชินคุ้นตาสายไหนก็ไปรอโดยสารมาท่าน้ำนนท์ได้เลย
ก่อนกลับ แอดมินเดินไปกลับเพื่อจะซื้อ กุ้ยช๋าย 7 สี 2 กล่องตามที่คิดไว้กลับไปทานที่บ้าน โอ้วววพระเจ้าจอร์ท เหลือแต่เคาร์เตอร์โล่งๆแม่ค้าก็ไม่มี อดกินสิครับงานนี้ ถ้าเพื่อนชอบทานกุ๋ยช้ายและผ่านมาท่าน้ำนนท์ช่วงเย็นๆ ก็ซื้อเลยนะครับ admin มั่นใจว่าต้องอร่อยแน่นอน
ส่วนวันนี้คงต้องใช้แผนสำรอง เลือกซื้อผักโขมอบชีส ร้านข้างๆที่แอบเล็งไว้เช่นกันตอนมาถึง อิอิ คืนนี้ไม่นั่งท้องร้องแน่นอน ส่วนทริปนี้ขอจบไว้เพียงเท่านี้ครับผม.
สถานที่ท่องเที่ยว น่าสนใจ จ. นนทบุรี
วัดบรมราชากาญจนาภิเษก
อนุสรณ์ (วัดเล่งเน่ยยี่2)
วัดที่พุทธบริษัทไทย-จีน บริเวณวัด มีทัศนียภาพอันสวยงาม ร่มรื่น สบายตา สบายใจ ทั้งสวนหย่อม สวนหินรูปร่างต่าง ๆ และรูปปั้นหิน ภายในวัดประกอบด้วย อุโบสถ มีลักษณะเป็นพุทธศิลป์แบบจีนมหายานในสมัยยุคหมิง – ชิง ซึ่งมีภาพเขียนที่มีลวดลายอันวิจิตรงดงาม และมีพระประธานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยมีพุทธลักษณะอันเปี่ยมด้วยพุทธเมตตาบารมี วิหารหมื่นพุทธสุขาวดีพุทธเกษตร วิหารท้าวจตุโลกบาล วิหารอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์ วิหารบูรพาจารย์ เป็นพุทธศิลป์จีนมีลักษณะงดงาม
เกาะเกร็ด
เกาะเกร็ด เกาะกลางน้ำเจ้าพระยา แหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในจังหวัดนนทบุรี รู้จักกันดีในฐานะแหล่งชุมชนคนมอญที่มีชื่อเสียง ในเรื่องของเครื่องปั้นดินเผา และประเพณีวัฒนธรรมแบบพื้นบ้านดั้งเดิม ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ได้เป็นอย่างดี เกาะเกร็ดเป็นสถานที่ ขึ้นชื่อของชุมชนกลุ่มชาวมอญและมีเครื่องปั้นดินเผาชั้นดี เป็นสินค้าประจำของเกาะเกร็ดโดยมีพระเจดีย์มุเตาของวัดปรมัยยิกาวาส เป็น สัญลักษณ์ประจำฝั่งท่าน้ำของเกาะ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวบนเกาะเกร็ด ก็จะมีทั้งมาเดินเที่ยว ช้อปปิ้ง หาของอร่อยๆ กิน บ้างก็เลือกนั่งเรือชมรอบเกาะ
บ้านโสมส่องแสง
ครูมนตรี ตราโมท
บ้านโสมส่องแสง ครูมนตรี ตราโมช ตั้งอยู่ในซอยพิชยนันท์ 2 ถ.ติวานนท์ 3 ครูมนตรีตราโมท ได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาดุริยางคศิลป์ ดนตรีไทย ประจำปี พ.ศ. 2528 ครูมนตรี ตราโมท ได้ชื่อว่าเป็นศิลปิน5แผ่นดิน ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 – 9 โดยปัจจุบันท่านได้ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว โดยมีทายาท คือ คุณญาณี ตราโมท ได้เปิดบ้านหลังนี้ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงความเป็นอยู่วิถีชีวิตที่เรียบง่ายสมถะ แสดงชีวประวัติของครูมนตรี รวมทั้งผลงานเพลงที่เป็นลายมือ ซึ่งหากใครต้องการชมพิพิธภัณฑ์เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น แต่ต้องโทรนัดล่วงหน้าเพื่อเข้าชม ส่วนบริเวณอื่นรอบตัวบ้าน สามารถเข้าไปชมได้โดยที่ไม่ต้องแจ้ง
ร้านเรือนทับขวัญ
เป็นร้านอาหารไทยชาววัง ที่ซ่อนตัวอยู่ในทับขวัญรีสอร์ท ที่เสริฟเมนูอาหารไทยโบราณหาทานยากในบรรยากาศรีสอร์ทเรือนไทยภาคกลาง รายล้อมด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ อาหารของที่นี่เป็นการปรุงในตำรับไทยแท้แบบชาววังหรือสูตรชาววัง วัตถุดิบที่ใช้ในการปรุง มาจากท้องถิ่นนนทบุรีแท้ ซึ่งมีเมนูมีให้เลือกมากมาย อาหารไทยรสชาติอร่อย ในราคาไม่แพงเกินไป แถมตกแต่งจานสวยงามน่าทานมาก
วัดชมภูเวก
เป็นวัดที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของจังหวัดนนทบุรี เป็นวัดมอญสร้างสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น สถาปัตยกรรมของวัดชมภูเวกที่มีความเก่าแก่ถึง 350 ปีนี้ เป็นศิลปะผสมผสานระหว่าง ไทย มอญ จีน พม่า และของชาวตะวันตก สิ่งที่โดดเด่น คือ ภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณอันงดงาม ทั้งสี่ด้านมีภาพจิตรกรรมสีฝุ่นผสมกาวตามแบบอยุธยาตอนกลางฝีมือช่างสกุลนนทบุรีในยุคนั้นแสดงเรื่องราวทศชาติชาดกและพุทธประวัติ