วัดสว่างอารมณ์ สุพรรณบุรี ไหว้พระ 9 วัด
วัดสว่างอารมณ์” เป็นวัดลำดับที่ 9 ตามเส้นทางไหว้พระ 9 วัดสุพรรณบุรี หรือเส้นทางมหามงคล ริมแม่น้ำสุพรรณบุรี วัดแห่งนี้เป็นวัดที่เลื่องชื่อรู้จักกันทั่วไปเพราะบารมีของพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง “หลวงพ่อหลี” อดีตเจ้าอาวาส ท่านได้ละสังขารไปนานแล้ว เป็นพระอริยสงฆ์ มีจริยวัตรอันงาม เคร่งครัดต่อพระธรรมวินัย เป็นที่ศรัทธาของประชาชนทั้งในสุพรรณบุรี และประชาชนทั่วประเทศ ว่ากันว่า “หลวงพ่อหลี” นั้น เป็นพระผู้มีวาจาสิทธิ์ กล่าวสิ่งใดมักจะเป็นจริงตามนั้น ทางวัดได้สร้างรูปเหมือนหลวงพ่อหลีไว้ในวิหารเล็กๆ มีประชาชนเดินทางมากราบไหว้อย่างไม่ขาดสาย ภายในวัดสว่างอารมณ์ยังมีวิหารเก่าแก่ นอกจากนั้นยังมี เจ้าแม่ตะเคียนทอง เสาตะเคียนตกน้ำมัน ทางวัดนำมาตั้งไว้ในศาลาเล็กๆ อยู่ใกล้ๆ กับมณฑปหลวงพ่อหลี ก็มีประชาชนเดินทางมาทำบุญกราบไหว้เจ้าแม่ตะเคียนทองนี้อยู่ตลอด ทางวัดมีบริการดื่มน้ำ ข้าวต้ม ขนม กาแฟ สำหรับพุทธศาสนิกชนและประชาชนทั่วไปที่มาเยี่ยมเยือนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
เนื้อหา
- ประวัติ ข้อมูลเกี่ยวกับวัด
- พระพุทธรูปสำคัญและสิ่งศักดิ์สิทธิ
- พระอุโบสถ วิหาร
- ปูชนียบุคคล
- เที่ยววัดชีสุขเกษม
- แผนที่ การเดินทาง
- เส้นทางท่องเที่ยวไหว้พระ 9 วัด
วัดสว่างอารมณ์ จังหวัดสุพรรณบุรี
วัดสว่างอารามณ์สร้างขึ้นเมื่อใ พ.ศ. 2370 ได้รับประกาศวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. 2479 ไม่ทราบวันและเดือน ตามหลักฐานของสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ
มณฑปหลวงพ่อหลี โรงทานวัดสว่างอารมณ์
มณฑปหลวงพ่อหลี ตั้งอยู่ภายใต้อาคารโครงเหล็ก ที่เชื่อมต่อออกมาจากอาคารเอนกประสงค์ของวัด และเป็นจุดบริการแก่นักท่องเที่ยว และประชาชนโดยทั่วไป
เดิมมณฑปหลวงพ่อก็ตั้งอยู่กลางแจ้ง ใกล้อาคารเอนกประสงค์ กองอำนวยการของวัด เมื่อเกิดมีการสงเสริมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไหว้พระ 9 วัด และวัดสว่างอารมณ์ก็เป็นวัดที่มีรายชื่อเป็นลำดับที่ 9 ของถนนสมภารคง หรือถนนสายอิ่มบุญเมืองสุพรรณ จึงมีการสร้างหลังคาครอบมณฑป เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ให้ได้นั่งพักผ่อน ไม่ร้อนแดด ไหว้พระอย่างมีความสุข
ช่วงแรกมีการให้บริการอาหารรองท้อง อาหารว่าง เครื่องดื่ม สำหรับนักท่องเที่ยวเฉพาะในวันเสาร์อาทิตย์ ซึ่งเป็นวันที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมากราบไหว้พระเป็นจำนวนมาก ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวแล้ว เด็กในละแวกใกล้เคียงและผู้คนโดยทั่วไปก็ยังสามารถเข้ามาทานอาหารได้ฟรี เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆเป็นอย่างมาก จนในที่สุดก็ได้เปิดเป็นโรงทานขึ้นทุกวัน
โรงทาน ภายใต้โครงหลังคาเหล็กยกสูงหลังนี้ เป็นปนิธานของหลวงพ่อชอบ พระครูสุมนต์ วิริยคุณ เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ที่ต้องการให้บริการแก่ประชาชน สาธุชนที่เข้ามายังวัดสว่างอารมณ์แห่งนี้ รวมถึงเด็กๆลูกหลานของคนในพื้นที่ ที่เรียนอยู่ในโรงเรียนวัดสว่างอารมณ์ ซึ่งอยู่ภายในบริเวณเดียวกับวัด ซึ่งภายให้ก็มีประชาชนเป็นจำนวนมากแสดงความต้องการเป็นเจ้าภาพโรงทานที่วัดสว่างอารมณ์ด้วย เป็นการสร้างบุญบารมีอีกทางหนึ่ง
หลวงพ่อชอบ เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ กล่าวว่าทางวัดได้จัดทำโรงทานมานานแล้ว เพื่อไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวและชาวบ้านใกล้เคียง โดยตอนแรกแรกทำอาหารเลี้ยงเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ แต่ต่อมามีเด็ก ๆ มาถามว่าวันนี้ไม่มีอาหารเลี้ยง อาตมาเลยทำอาหารเลี้ยงทุกวันไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยว และชาวบ้านทุกวัน เนื่องจากวัดสว่างอารมณ์ เป็นวัดลำดับที่ 9 และเป็นวัดสุดท้ายในเส้นทางไหว้พระ 9 วัด ของโปรมแกรมการท่องเที่ยวไหว้พระ 9 วัด จึงได้จัดเตรียมการให้บริการอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างความประทับใจ ความสุขใจเมื่อมาทำบุญ
อานิสงค์การสร้างโรงทาน
นอกจากนี้ ภายใต้โครงหลังคาหลังเดียวกัน ยังมีศาลาแม่ตะเคียนทอง นามว่าบัวขาว ซึ่งชาวบ้านย่านนี้ให้ความเคารพนับถือ เชื่อถือในความศักดิ์สิทธิ มีชาวบ้านมากมายมาขอโชคขอลาภสำเร็จสมหวังจำนวนมาก ศาลาแม่ตะเคียนจึงเป็นอีก 1 จุดที่ผู้นิยมการแสวงโชคมักมากราบไหว้อยู่เป็นประจำ
พระอุโบสถ วัดสว่างอารมณ์
พระอุโบสถวัดสว่างอารมณ์ เป็นพระอุโบสถหลังเก่า ตัวอุโบสถไม่ทราบว่าสร้างขึ้นใน พ.ศ. ใด แต่ที่ซุ้มประตูนั้นสร้างขึ้นใน พ.ศ. 2503 โดยชาวบ้าน ซึ่งสันนิฐานว่าน่าจะสร้างถวายในภายหลัง
ปูชนียบุคคล
หลวงพ่อหลี
หลวงพ่อหลี อดีตเจ้าอาวาสแห่งวัดสว่างอารมณ์ เป็นพระสงฆ์ที่มีจริยวัตรปฏิบัตงดงาม ถึงพร้อมด้วยศีล เคร่งครัดธรรมวินัย อีกทั้งยังสงเคราะห์ญาตโยมให้ด้านต่างๆ ทั้งเทศนาสนทนาธรรม รักษาโรคด้วยแพทย์ตำราโบราณ ดูฤกษ์นาที ทำนายทายทัก ยามสะเดาะเคราะห์ให้แก่ญาติโยม
แม้หลวงพ่อหลีได้เอยกล่าวทายทักญาติโยมในสิ่งได้แล้ว มักเกิดขึ้นจริงตามคำพูดของหลวงพ่อเสมอ ทำให้ชาวบ้านในแถบตำบลพิหารแดง และใกล้ไกลทุกสารทิศ มากราบไหว้บูชา ขอคำแนะนำจากหลวงพ่ออยู่ไม่ขาด เป็นที่พึงททางใจแก่คนทั่วไป หลวงพ่อมักสั่งให้ประพฤติดีประพฤติชอบ หลวงพ่อพูดอย่างไร ลูกศิษย์ลูกหาเชื่อฟังเคารพเป็นอย่างดี แม้นหลวงพ่อได้มรณะภาพไปนานแล้ แต่ด้วยบารมีของหลวงพ่อหลี ผู้มีวาจาสิทธิ ยังมีชาวบ้านร้านตลาดลูกษ์ลูกหามากราบไหว้เคารพรูปเหมือนหลวงพ่อหลี พร้อมนึกถึงคำสั่งสอนให้ประพฤติดีทำดี อยู่เสมอๆ
หลวงพ่อชอบ วัดสว่างอารมณ์
พระอธิการอ่อน ญานุตโม วัดชีสุขเกษม
หลวงพ่อชอบ วัดสว่างอารมณ์ จ.สุพรรณบุรี ท่านเป็นทายาทพุทธาคมสืบทอดวิชาสายตรงมาจากหลวงพ่อทองหยด อดีตเจ้าอาวาสวัดชีสุขเกษม ซึ่งหลวงพ่อชอบ เป็นพระหลานชายหลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน (วัดมอญ) หลวงพ่อทรงเป็นลูกพี่ลูกน้องกับพ่อมั่น ซึ่งเป็นโยมพ่อของหลวงพ่อชอบ สมัยหลวงพ่อชอบ บวชใหม่ๆโยมพ่อมั่นได้ฝากหลวงพ่อชอบ ไว้กับหลวงพ่อทรง ซึ่งหลวงพ่อทรงก็เมตตาถ่ายทอดวิชาอาคมให้กับท่านหลวงพ่อชอบ
เรื่องปฏิปทาวัตรปฏิบัติอันงดงามของหลวงพ่อชอบ ส่งผลทำให้ชื่อเสียงของท่านเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
การสร้างโรงทาน
ในสมัยพุทธกาลคนยากคนจนมีเยอะ ดังนั้นการตั้งโรงทานในสมัยพุทธกาลนั้น เจตนาเพื่อจะเลี้ยงคนยากคนจนเท่านั้น คนรวยไม่มีโอกาสกิน เป็นการเลี้ยงเพียงวรรณะเดียว เป็นการสร้างบารมีด้วยตัวเอง ซึ่งเกิดมาชาติใดก็จะไม่อดไม่อยากในสมัยปัจจุบัน
การตั้งโรงทานในวัด สมัยปัจจุบันเนื่องในโอกาสต่างๆนั้น จุดประสงค์ก็คือต้องการแบ่งเบาภาระเรื่องอาหารของทางวัด เพราะหากไม่มีโรงทาน ทางวัดก็ต้องสิ้นเปลืองเงินทองจัดหาอาหารมาเลี้ยงคนที่มาที่วัด ยิ่งโดยเฉพาะช่วงที่มีงานใหญ่ๆโตๆ คนมางานกันเยอะ ถ้าไม่มีโรงทาน ภาระหนักก็จะตกอยู่กับทางวัด ซึ่งการตั้งโรงทานในวัดนั้น เป็นการเปิดกว้างให้คนทุกชั้นทุกวรรณะ ไม่ว่าจะยากดีมีจนก็มีสิทธิมารับประทานอาหารได้
อีกนัยหนึ่งการตั้งโรงทานในวัด เท่ากับเป็นการร่วมสร้างบุญสร้างกุศลกับพระสงฆ์องค์เจ้าด้วย เป็นการพึ่งบารมีของท่าน เป็นการร่วมสร้างบารมีกับท่าน เมื่อคนกินอาหารอร่อย เค้าก็จะโมทนากับเจ้าของโรงทาน โมทนากับหลวงปู่ หลวงตา หลวงพ่อ หลวงพี่ ว่า เพราะบารมีท่านถึงมีโรงทานเยอะแยะมากมายอย่างนี้ ไม่ได้อดไม่ได้อยากเลยพวกเรา อีกทั้งเทวดาก็โมทนาสาธุการกับเจ้าของโรงทานด้วย
บางครั้งอาหารที่เรามาตั้งโรงทาน เราก็แบ่งส่วนหนึ่งไปถวายเพล ไปเลี้ยงพระ ซึ่งก็ไม่ได้มีข้อห้ามอะไรว่า อาหารที่เราตั้งโรงทาน จะต้องเลี้ยงคนที่มาที่วัดเท่านั้น จะนำไปเลี้ยงพระไม่ได้เพราะฉะนั้น หากมองในภาพรวมแล้ว การตั้งโรงทานในวัดนั้น ไม่ได้จำกัดเฉพาะคนยากคนจน ไม่ได้จำกัดเฉพาะลูกศิษย์วัด ใครจะเดินเข้ามากินก็ได้ ที่สำคัญเป็นการร่วมทำบุญกับทางวัด ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ การตั้งโรงทานในวัดจึงได้อานิสงส์มากกว่าตั้งโรงทานเพื่อเลี้ยงคนยากคนจนเพียงอย่างเดียว
อานิสงส์การตั้งโรงทาน เเจกอาหาร
อานิสงส์ที่ได้รับ คือ จะเป็นผู้ที่ไม่ประมาท มีสติดี เมื่อละโลกนี้ไปแล้วจะเกิดในเทวโลก แวดล้อมด้วยเหล่าบริวารคอยบำรุงบำเรออยู่ตลอดกาล จะได้เสวยสมบติเป็นทิพย์ ครั้นเมื่อจุติจากเทวโลกแล้วมาปฏิสนธิในมนุษยโลกจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิครอบครองทวีปทั้ง 4 คือ ชมพูทวีป อุตตกุรุทวีป อมรโคยานทวีป และปุพพวิเทหทวีป
มีรัตนะทั้ง 7 (สัญลักษณ์ของจักรพรรดิราช) คือ จักรแก้ว นางแก้ว ขุนพลแก้ว ขุนคลังแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว และมณีแก้ว แม้ในอนาคตชาติก็จะได้เกิดอยู่แต่ในสุคติภูมิเป็นมนุษย์บ้าง เทวดาบ้าง และเป็นที่เคารพบูชาของมหาชน แม้เหล่าเทวดาก็ชื่นชมยินดียกย่องสรรเสริญ มีรูปกายงดงามสมส่วนเป็นสง่าน่าเกรงขาม มียศมากอำนาจมาก มีจิตตั้งมั่นไม่ฟุ้งซ่าน ไม่มีความสะดุ้งหวั่นไหว และจะได้บรรลุคุณวิเศษทั้งปวง
เที่ยว วัดสว่างอารมณ์ สุพรรณบุรี
- วัดสว่างอารมณ์ ได้เปิดให้ประชาชนเข้ากราบไหว้ เวลา 08.00-18.00 น. ของทุกวัน
- ค่าบูชาดอกไม้ ธุปเทียน ทอง ตามกำลังศรัทธา
- ตู้บริจาคเพื่อบำรุงวัดและสาธารณะกุศลต่าง ตามกำลังศรัทธา
- เหมาะสำหรับ ทั้งกิจกรรมครอบครัว หมู่คณะ
- มีลานจอดรถให้บริการผู้มีจิตศรัทธากว้างขวาง
- มีอาหาร เครื่องดื่มไว้บริการ แก่ผู้มาเยือน
แผนที่และการเดินทาง
“นอกจากนี้วัดพระลอยห่งนี้ ยังเป็นวัดในเส้นทางถนนสายบุญ ไหว้พระ 9 วัด ยอดฮิตของจังหวัดสุพรรณบุรีอีกด้วย สามารถไหว้พระ 9 วัดในระยะทางเพียงประมาณ 6 กิโลเมตรเท่านั้น”
บริการนำเที่ยวไหว้พระ 9 วัด แบบหมู่คณะไม่เกิน 10 คน ราคาเริ่มต้นท่านละ 400 บาท (ไม่รวมค่าอาหาร)
วันเดียวเที่ยวสุพรรณ ไหว้พระ 9 วัด สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-9204-2940
ที่เที่ยวอื่นๆในสุพรรณ
วัดสว่างอารมณ์ เที่ยว สุพรรณบุรี ไหว้พระ 9 วัด
กราบหลวงพ่อหลี ไหว้หลวงพ่อชอบ ขอพรย่าคะเคียน อิ่มบุญอิ่มใจโรงทาน วัดสว่างอารมณ์
วัดชีสุขเกษม ไหว้พระ 9 วัด สุพรรณบุรี
วัดชีสุขเกษม กราบหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ อายุราว 1000 ปี
เที่ยววัดพิหารแดง สุพรรณบุรี
วัดพระนอน จ.สุพรรณบุรี ไหว้พระไสยาสน์ปางปรินิพพานหินศิลาเก่าแก่ ไหว้เจ้าแม่กวนอิม อุทยานมัจฉาเลี้ยงปลาท่าน้ำหน้าวัด
วัดพระนอน สุพรรณบุรี พระนอนหงาย
วัดพระนอน จ.สุพรรณบุรี ไหว้พระไสยาสน์ปางปรินิพพานหินศิลาเก่าแก่ ไหว้เจ้าแม่กวนอิม อุทยานมัจฉาเลี้ยงปลาท่าน้ำหน้าวัด
วัดหน่อพุทธางกูร สุพรรณบุรี
กราบพระสิงห์สามสารชนะมาร ทำบุญสะเดาะห์เคราะห์ต่อชะตาพระพุทธรูปประจำวันเกิดทรงเครื่อง เที่ยวชมโบสถ์เก่าและงานจิตรกรรมโบราณ สมัย รัชกาลที่
วัดพระลอย ไหว้พระทำบุญ อุทยานมัจฉา
วัดพระลอย กราบหลวงพ่อพระลอยพระนาคปรกศักดิ์สิทธิ เมืองสุพรรณบุรี กราบหลสงพ่อแต้มเกจิดังยันต์เกราะเพชร ทำบุญต่อชะตา
วัดสารภี เที่ยวสุพรรณบุรี
วัดสารภี วัดที 3 ถนนสายบุญเมืองสุพรรณบุรี เที่ยวไหว้พระเก้าวัด
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี พระผงสุพรรณ เบจภาคีพระเครื่องไทย
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พระผงสุพรรณนามระบือลือเลื่อง ชมพระปรางค์เมืองเก่า แหล่งบุญเส้นทางไหว้พระ 9
ร้านอาหาร และเครื่องดื่ม บริเวณใกล้เคียง
ครัวบ้านบ้าน
ครัวบ้านบ้าน ร้านอาหารบรรยากาศชายทุ่งต่างจังหวัด ลมพัดโชยๆ ตัวร้านยืนลงไปในสระน้ำ บริการอาหารไทย
ร้านอาหาร เดลิเวอรี่ เมืองสุพรรณ
รายชื่อร้านอาหาร เดลิเวอรี่ เมืองสุพรรณ food delivery
ข้าวหมูแดงเรือเมล์ สูตรน้ำพริกเผา
ข้าวหมูแดงเรือเมล์ ตำนานเจ้าตำหรับหมูแดงน้ำพริกเผา อร่อยเด็ด เผ็ด หวาน
ก๋วยเตี๋ยวช้างยิ้ม ต้มยำฮาร์ดคอร์
ช้างยิ้มก๋วยเตี๋ยวต้มยำฮาร์ดคอร์ ร้านก๋วยเตี๋ยวอารมณ์ดี ใน จ.สุพรรณบุรี ขายไป
ร้านอาหาร Playground Bistro สุพรรณบุรี
playground Bisto ร้านอาหาร+คาเฟ่ (ลับๆ) จ.สุพรรณบุรี
ข้อมูลพื้นฐาน สุพรรณบุรี
ความเป็นมาที่ชื่อว่า สุพรรณบุรี เป็นจังหวัดที่มีหลักฐานประวัติศาสตร์มายาวนาน เป็นเมืองโบราณ มีการสันนิฐานว่า มีอายุไม่ต่ำกว่า 3,500 – 3,800 ปี โบราณวัตถุที่ขุดพบมีทั้งยุคหินใหม่ ยุคสัมฤทธิ์ ยุคเหล็ก และสืบทอดวัฒนธรรมต่อเนื่องมาตั้งแต่ สมัยสุวรรณภูมิ ฟูนัน อมราวดี ทวารวดี ศรีวิชัย
สุพรรณบุรี เดิมมีชื่อ “ทวารวดีศรีสุพรรณภูมิ หรือ “พันธุมบุรี”
ต่อมาพระเจ้ากาแต ได้ย้ายเมืองมาตั้งอยู่ที่ฝั่งขวาของแม่น้ำ แล้วโปรดให้มอญน้อยไปสร้างวัดสนามชัย และบูรณะวัดป่าเลไลยก์ ชักชวนให้ข้าราชการจำนวน 2000 คนบวช จึงขนานนามเมืองใหม่ว่า”เมืองสองพันบุรี”
ครั้งถึงสมัยพระเจ้าอู่ทอง ได้สร้างเมืองมาทางฝั่งใต้หรือทางตะวันตกของแม่น้ำท่าจีน ชื่อเมืองเรียกวา “อู่ทอง” จวบจนสมัย “ขุนหลวงพะงั่ว” เมืองจึงถูก เรียกว่าชื่อว่า “สุพรรณบุรี” นับแต่นั้นมา
สุพรรณบุรี ตั้งอยู่ บนพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำท่าจีน หรือแม่น้ำสุพรรณบุรีไหลผ่านตามแนวยาวของจังหวัดจากเหนือจรดใต้ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 5,358.01 ตารางกิโลเมตรหรือประมาณ 3.3 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 5.2 ของพื้นที่ภาคกลางอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 107 กิโลเมตร (ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 340) โดยทางรถไฟประมาณ 142 กิโลเมตร
แดนยุทธหัตถี วรรณคดีขึ้น เลื่องลือพระเครื่อง รุ่งเรืองเกษตรกรรม สูงล้ำประวัติศาสตร์ แหล่งปราชญ์ศิลปิน ภาษาถิ่นชวนฟัง