ข้าวหมูแดง เรือเมล์ สูตรน้ำพริกเผา สุพรรณบุรี
ข้าวหมูแดงเรือเมล์ สุพรรณบุรี 75 ปีแห่งคุณภาพ สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นจนกลายเป็นตำนานความอร่อยที่คุณๆไม่ควรพลาด
ทุกวันนี้ชีวิตปัจจุบันขึ้นอยู่กับความเร่งรีบ ครั้นจะตื่นเช้ามาหุงหาอาหาร ทำกับข้าวกินเองแบบคนสมัยก่อน ก็หาน้อยบ้านนักที่จะยังคงทำได้
โดยเฉพาะในเมืองใหญ่เช่นกรุงเทพแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แม้แต่สังคมนอกเมือง ชานเมืองหลวงอย่างสุพรรณบุรีก็เช่นกัน แม้จะไม่มีรถติดมากมายมหาศาลขนาดเท่ากรุงเทพเมืองหลวง
แต่รูปแบบวิถีก็เปลี่ยนไปมาก ต้องรีบออกจากบ้านแต่เช้าไปทำงานไม่ต่างจากคนเมืองกรุง ครั้นจะตื่นตี 4 ตี 5ทำอาหารก็ดูจะเหนื่อยเกินไปสำหรับมนุษย์เงินเดือน ซื้อข้าวกินง่ายกว่า
ข้าวหมูแดง อาหารจานด่วนมื้อง่ายๆ ที่เป็นที่ถูกอกถูกใจโดยเฉพาะเด็ก ที่จังหวัดสุพรรณบุรี มีร้านข้าวหมูแดงอยู่ร้านหนึ่ง เวลาสังคมกาลเวลาจะผ่านไปแต่ความเรียบเงียบพิถีพิถัน การคงไว้ซึ่งคุณภาพ และรสชาติของข้าวหมูแดงที่ร้านนี้ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาเลย
ข้าวหมูแดงสูตรน้ำพริกเผา
ตำนานความอร่อยที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ด้วยน้ำราดหมูแดงสูตรพิเศษ สูตรน้ำพริกเผา ที่แปลก อร่อยและรสชาติไม่เหมือนใคร ไม่มีใครเหมือน
หมูแดงเรือเมล์ สุพรรณบุรี
ร้านข้าวหมูแดง เรือเมล์ เปิดบริการมาตั้งแต่สมัย พ.ศ. 2489 โดยเตี่ย กังน้ำ แซ่ตั้ง ซึ่งถือเป็นเจ้าของร้านรุ่นแรก คุณกิตติ พัฒนอวยชัย (เฮียฮวด)เจ้าของร้าน (รุ่นที่2) เล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนเมืองสุพรรณยังอาศัยการสัญจรทางน้ำเป็นหลัก การเดินทางมายังสุพรรณบุรีต้องอาศัยเรือเมล์มาที่ท่าน้ำ จ.สุพรรณบุรี เตี่ยเดินทางจากเมืองจีน พอมาถึงที่ท่าน้ำเมืองสุพรรณ เตี่ยมองเห็นว่าเป็นที่ที่ทำเลดี มีผู้คนสัญจรคึกคัก เหมาะแก่การค้าขาย จึงเปิดร้านข้าวหมูแดงสูตรแต้จิ๋ว ตั้งร้านขายอยู่บริเวณท่าเรือแม่น้ำท่าจีน อ.เมือง จ.สุพรรณบุรีนั่นเอง
ภายในร้านข้าวหมูแดง เรือเมล์ นอกจากรูปภาพ เตี่ยกังน้ำ แซ่ตั้ง ต้นตำหรับข้าวหมูแดงสูตรน้ำพริกเผาแล้ว แล้ว ยังมีรูปภาพถ่ายบรรยากาสท่าน้ำ จ.สุพรรณบุรี ประดับติดผนังไว้บอกเรื่องราวความเป็นมาอันยาวนานของร้าน ทั้งยังเป็นภาพเมืองสุพรรณในอดีตที่หาชมได้ยากอีกด้วย
ร้านข้าวหมูแดงเรือเมล์ ตั้งชื่อตามทำเลที่ตั้งร้านคือ บริเวณท่าเรือเมล์ ท่าน้ำน้ำเมืองสุพรรณในอดีตนั่งเอง แต่ปัจจุบันได้ย้ายจากท่าน้ำมายังร้านปัจจุบันแต่ยังคงใช้ชื่อ ข้าวหมูแดงเรือเมล์ เหมือนเดิม
พิถีพิถัน เอาใจใส่
เฮียฮวดยังเปิดเผยอีกด้วยว่า เคล็ดลับความอร่อย ก็คือคุณภาพของวัตถุดิบที่เลือกใช้ ต้องสดใหม่ ใช้แต่ของดี รวมถึงวิธีการ ย่างหมู ทั้งหมูกรอบ หมูแดง จะดูแลทุกขั้นตอนอย่างละเอียดเพื่อให้ได้มาตราฐานคงความอร่อยเหมือนสมัยเตี่ยทำ เป็นการรักษาชื่อเสียงของเตี่ย ของร้านที่เล่าขานกันมานานว่าอร่อย
ข้าวหมูแดงเรือเมล์สูตรแต้จิ๋ว ที่เล่าขานบอกกันปากต่อปากว่าอร่อย มีน้ำราดหมูแดง หมูกรอบ ที่ ไม่เหมือนน้ำราดหมูแดงเจ้าอื่นๆ เพราะมีความเผ็ด เค็มหวาน เปรี้ยวครบรส
เมื่อทานคู่กับหมูแดงชิ้นโตๆ หรือหมูกรอบเนื้อนุ่มรอบกรุบๆ พร้อมข้าวสวยร้อนๆ จะสัมผัสรสชาตินัวๆในปาก มีมิติรสชาติครบ หมูแดงก็นุ่ม หมูกรอบก็กรอบไม่เลี่ยน จะให้ดีสั่งน้ำซุปมาทานทานเพิ่มความลื่นไหล ล้างปากล้างคอ จะได้สัมผัสรสชาติข้าวหมูแดงสูตรแต้จิ๋วแบบถึงใจทุกคำ
การันตีความอร่อย
แม้ร้านจะไม่ได้ตกแต่งหรูหรา แต่รับประกันความอร่อย ด้วยบรรยากาสร้านตึกแถว แต่ภายในบอกเล่าเรื่องราวความเป็นตำนานในอดีต ได้รับรางวัลมากมาย ออกรายการทีวี หนังสือพิมพ์เป็นว่าเล่น รวมถึงบรรดาเหล่าคนดังที่หากมาเมืองสุพรรณล้วนต้องมาทาน มาชิมข้าวหมูแดงที่นี้ทั้งสิ้น
โดยเฉพาะ ป้ายการันตีความอร่อยจากรายการเชลล์ชวนชิม รายการแนะนำริวิวร้านอาหารชื่อดังในอดีต โดยหม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ เป็นศิลปินแห่งชาติ นักแสดง นักร้อง นักเขียน และนักจัดรายการวิทยุโทรทัศน์ ซึ่งบอกเลยว่าเป็นความภูมิใจอย่างหนึ่งของที่ร้าน
- อร่อย จะถูกจะแพงไม่ว่า แต่ต้องอร่อย
- มีความเป็นเอกลักษณ์ มีความจำเพาะของร้าน
- คุ้มค่าแก่การไปชิม ใกล้ไกล ขึ้นรถลงเรือ เหนื่อยไม่ว่า แต่ไปแล้วต้องคุ้มค่า
ถ้าผ่านทั้ง 3 คุณสมบัตินี้ ก็จะได้รับการการันตีความอร่อย จากต้นตำหรับ รายการรีวิว ชิมอาหารของเมืองไทย
และแน่นอนว่า ร้านข้าวหมูแดงเรือเมล์ จังหวัดสุพรรณบุรี มีองค์ประกอบครบทั้ง 3 อย่างจึงได้รับป้ายการันตีจากรายการเชลล์ชวนชิม โดยหม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สสวัสดิวัตน์ มาเป็นเครื่องหมายยืนยัน
ทายาทรุ่น 3 ข้าวหมูแดงเรือเมล์
คุณภัทรวดี พัฒนอวยชัย ลูกสาวเฮียฮวด เป็นทายาทรุ่นที่ 3 ร้านข้าวหมูแดงเรือเมล์ขายข้าวหมูแดงสูตรพริกเผามาถึง 75 ปีแล้ว สูตรต่างๆของที่ร้านได้รับการสืบทอดมา ยังรสชาติยังคงเหมือนเดิมเข้มข้นไม่เปลี่ยนแปลง เพราะเฮียฮวด ยังคงเลือกสรรวัตถุดิบอย่างดี และทำหมูกรอบ หมูแดงเอง อย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอน แม้ร้านที่จากเดิมขายอยู่ท่าเรือเมล์ท่าน้ำในตลาดสุพรรณบุรี มาอยู่ตึกแถวริมถนนเถรแก้ว อ.เมืองสุพรรณบุรี
ปัจจุบันทางร้านได้เพิ่มรายการข้าวหมูแดงครบเครื่อง ข้าวขาหมู ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋น ซี่โครงหมูตุ๋น ก๋วยเตี๋ยวหมูบะช่อ และบะหมี่หน้าหมูแดง หมูกรอบ ทุกรายการเมนูเครื่องแน่น ที่โป๊ะมาในชามจนไม่เห็นเส้นเลย และมีเมนูพิเศษ ทูอินวัน ขาหมู+หมูกรอบ ไม่ว่าจะเป็นข้าว หรือบะหมี่ สามารถรวมในจานเดียวกันได้อีกด้วย ราคาอาหารก็ไม่แพง เริ่มตั้นที่ 25 บาทเท่านั้น
รายการอาหารของร้านข้าวหมูแดงเรือเมล์ ราคาถูกมาก คุ้มราคา คุ้มค่าแถมมีความอร่อยเป็นเลิศอีกด้วย ราคาชิลล์ๆแบบนี้ เบิ้ล 2 เบิ้ล 3 กันได้เลย
ทานข้าวที่ ร้านหมูแดงเรือเมล์
ได้อธิบายเรื่องราวที่มาของร้านข้าวหมูแดงแห่งนี้กันไปพอสมควรแล้ว อย่างที่เกริ่นเอาไว้ตอนต้นว่า ยุคสมัยนี้หาบ้านที่ทำอาหารเช้าเองได้น้อยเต็มที มักนิยมซื้อกินเอาง่ายกว่า หากมาสุพรรณยามเช้า ร้านรวงยังไม่เปิดเท่าไรนัก ที่เปิดเป็นอาหารเช้าเบาๆพวกโจ๊ก ข้ามต้ม นี่ 8 โมงเช้าก็ปิดกันหมด ลองมาที่นี่เลยครับ ร้านข้าวหมูแดงเรือเมล์
ที่นี่มาลองดูบรรยากาสเมื่อเข้ามาทานอาหารที่ร้านกันบ้าง ทันทีที่มาถึงครับแว่บแรกเห็นพนักงาน บ.ส่งอาหารสีเขียว เดินหิวถุงข้าวกล่องออกไป หลายถุงใหญ่ๆ ขายดีแต่เช้าเลย คว้ากล้องไม่ทัน พี่แกไปสะแระ ขณะที่ก็ยังมี พนักงานอีกคนมาถึงใหม่ สั่งอาหารแล้วนั่งรอคิว คิวทองมากครับ
เดินเข้ามาในร้านสิ่งที่ผมเห็นก่อนเมนูก็คือ หม้อต้มขาหมูใบใหญ่ ซึ่งเห็นแล้วมันเรียกให้กรดในกระเพาะทำงานได้หนักหน่วงขึ้นทันที ก่อนที่ผมจะเอ่ยถามอะไร เสียงคุณพี่ ภัทรวดี แกบอกว่าตอนนี้เมนูข้าวยังไม่พร้อม มีแต่เมนูก๋วยเตี๋ยวที่พร้อมทาน เพราะเพิ่งส่งข้าวกล่องออกไป 300 กล่อง (พี่เสื้อเขียวเดลิเวอรี่คนนั้นแน่ๆๆ)
หลังจากพี่ภัทรวดี บอกผมก็เพิ่งจะสังเกตุเนื้อขาหมูในหม้อต้ม มันยุบหายไปเยอะเลยดูโหวงเหวง ถ้าพี่แกไม่บอกก็คงไม่รู้ ขนาดหายไปตั้งเยอะยังดูหน้ากินเลย ตอนขอถ่ายรูปพี่แกยังบอกเลยว่า มันไม่สวยแล้วไม่เต็มหม้อต้ม
ครับ ก๋วยเตี๋ยวก็ก๋วยเตี๋ยว ไม่ใช่ปัญหา ความอร่อยไม่สงสัยอยู่แล้ว แต่ที่ผมแคร์ตอนนี้คือกระเพาะอาหารผมมันร้องจนคนรอบข้างตกใจแล้ว ว่าแล้วก็สั่งก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นไปก่อนแบบไม่ต้องคิดอะไรแล้วครับนาทีนี้
รอไม่นานครับ ไม่ถึง 3 นาที ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นร้อนๆในชามตราไก่ ก็มาเสิร์ฟครับ หน้าตาเป็นอย่างนี้น่าทานทีเดียวครับ ได้เบิ้ลแน่นอนก่อนอื่นจัดการเจ้าก๋วเตี๋ยวชามนี้ก่อน ค่อยว่ากันอีกที และในระหว่างที่กำลังทานก๋วยเตี๋ยวนี้เองเสียง เฮียฮวดก็ดังมาจากหลังร้านว่า ข้าวสวย และหมูกรอบ พร้อมแล้ว ใครจะทานข้าวสั่งได้เลย
ผมไม่รอช้าครับ ถามพี่ อีกครั้งว่าสั่งข้าวได้แล้วใช่รึเปล่า พี่แกตอบว่าได้แล้ว ผมเลยสั่งทั้ง ข้าวหมูแดง และข้าวหมูกรอบอย่างละ 1 จาน ไม่รู้ว่าด้วยความหิว หรือความที่กลัวจะต้องรอคิว เพราะตลอดที่นั่งอยู่ในร้านหันหน้าออกไปทางด้านหน้าร้าน มีลูกค้าเข้ามาสั่งอาหารทั้งกินในร้านและสั่งกลับบ้าน อยู่ตลอดเวลาเลย
ไม่นานเกินรอครับ ทานก๋วยเตี๋ยวหมดชามพอดี ข้าวขาหมู เนื้อ+หนัง ก็มาเสริฟครับ สมใจอยากครับวันนี้ น่าทานมากครับ เนื้อนุ่ม หนังหมูแทบละลายในปากครับอร่อยมากครับมันก็ไม่เยอะ ไม่เลี่ยนสำหรับคนไม่ชอบทานมันกินได้ หรือจะสั่งแบบเนื้อล้วยไม่เอามันไม่เอาหนังก็ได้ครับ อร่อยต้องมาลองเองครับ
แล้วก่อนข้าวขาหมูจะหมด ข้าวหมูกรอบก็ถูกนำมาวางที่โต๊ะครับ อือหื้อ แค่สีน้ำราดสูตรน้ำพริกเผา ก็น่าทานแล้วครับ ราดบนหมูกรอบมันน้อยชิ้นโต ทานแล้วบอกได้คำเดียวว่าเด็ดสมคำร่ำลือ สมแล้วที่เปิดมายาวนานถึง 75 ปี ไม่อร่อยไม่ดีจริง อยู่ไม่นานขนาดนี้ครับ
หากเพื่อนๆเดินทางมาจังหวัดสุพรรณบุรี ไม่ว่าจะมาเที่ยว หรือมาทำงาน หากมองหาร้านอาหารง่ายๆทานอร่อย ต้องไม่พลาดร้านข้าวหมูแดงเรือเมล์ แห่งนี้ครับ เปิดมาแล้ว 75 ปีรับประกันได้เลยเรื่องความอร่อย ไม่ผิดหวังแน่นอน
ร้านข้าวหมูแดง เรือเมล์ ร้านอาหาร จังหวัดสุพรรณบุรี
- เวลา 07.00-15.00 น. ของทุกวัน
- ค่าอาหารเริ่มต้นที่ 25 บาท
- บริการสั่งทำข้าวกล่อง
- มีบริการ ส่งอาหาร
- ที่จอรถ : จอดได้ 5-6 คันริมถนนหน้าร้าน
- เบอร์โทร : 085 193 1987
แผนที่และการเดินทาง
แนะนำเส้นทางท่องเที่ยวไหว้พระเก้าวัด จังหวัดสุพรรณบุรี
เส้นทางไหว้พระ 9 วัด ยอดนิยมของ จังหวัดสุพรรณบุรี
บริการนำเที่ยวไหว้พระ 9 วัด แบบหมู่คณะไม่เกิน 10 คน ราคาเริ่มต้นท่านละ 400 บาท (ไม่รวมค่าอาหาร)
วันเดียวเที่ยวสุพรรณ สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-9204-2940
ข้อมูลพื้นฐาน สุพรรณบุรี
ความเป็นมาที่ชื่อว่า สุพรรณบุรี เป็นจังหวัดที่มีหลักฐานประวัติศาสตร์มายาวนาน เป็นเมืองโบราณ มีการสันนิฐานว่า มีอายุไม่ต่ำกว่า 3,500 – 3,800 ปี โบราณวัตถุที่ขุดพบมีทั้งยุคหินใหม่ ยุคสัมฤทธิ์ ยุคเหล็ก และสืบทอดวัฒนธรรมต่อเนื่องมาตั้งแต่ สมัยสุวรรณภูมิ ฟูนัน อมราวดี ทวารวดี ศรีวิชัย
สุพรรณบุรี เดิมมีชื่อ “ทวารวดีศรีสุพรรณภูมิ หรือ “พันธุมบุรี”
ต่อมาพระเจ้ากาแต ได้ย้ายเมืองมาตั้งอยู่ที่ฝั่งขวาของแม่น้ำ แล้วโปรดให้มอญน้อยไปสร้างวัดสนามชัย และบูรณะวัดป่าเลไลยก์ ชักชวนให้ข้าราชการจำนวน 2000 คนบวช จึงขนานนามเมืองใหม่ว่า”เมืองสองพันบุรี”
ครั้งถึงสมัยพระเจ้าอู่ทอง ได้สร้างเมืองมาทางฝั่งใต้หรือทางตะวันตกของแม่น้ำท่าจีน ชื่อเมืองเรียกวา “อู่ทอง” จวบจนสมัย “ขุนหลวงพะงั่ว” เมืองจึงถูก เรียกว่าชื่อว่า “สุพรรณบุรี” นับแต่นั้นมา
สุพรรณบุรี ตั้งอยู่ บนพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำท่าจีน หรือแม่น้ำสุพรรณบุรีไหลผ่านตามแนวยาวของจังหวัดจากเหนือจรดใต้ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 5,358.01 ตารางกิโลเมตรหรือประมาณ 3.3 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 5.2 ของพื้นที่ภาคกลางอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 107 กิโลเมตร (ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 340) โดยทางรถไฟประมาณ 142 กิโลเมตร
แดนยุทธหัตถี วรรณคดีขึ้น เลื่องลือพระเครื่อง รุ่งเรืองเกษตรกรรม สูงล้ำประวัติศาสตร์ แหล่งปราชญ์ศิลปิน ภาษาถิ่นชวนฟัง
ที่เที่ยวอื่นๆในสุพรรณ